ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก
คนสองคนกำลังมองดูแล็ปท็อป

ทีมงานฟิวชันและการพัฒนาแบบฟิวชันคืออะไร

ในขณะที่ธุรกิจต่างๆ นำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์เพื่อการเปลี่ยนแปลงไปสู่ดิจิทัล พวกเขายังต้องประเมินว่าทีมงานภายในองค์กรจะทำงานและสื่อสารกันอย่างไร เพื่อให้แน่ใจว่าการเปลี่ยนแปลงไปสู่ดิจิทัลนั้นจะประสบความสำเร็จ

ทีมงานฟิวชันจะเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์ดังกล่าวนั้น ทีมจะช่วยปรับปรุงทั้งผลลัพธ์ทางธุรกิจและประสบการณ์ของผู้ใช้ ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่รวดเร็วและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น

ทีมงานฟิวชันคืออะไร

ทีมงานฟิวชันคือทีมนักพัฒนา ผู้ใช้ และผู้นำธุรกิจจากหลากหลายสาขาวิชาชีพ ที่ใช้ความรู้ความสามารถและความเชี่ยวชาญเฉพาะทางของตนเพื่อช่วยสร้างผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับเป้าหมายเดียวกัน ด้วยการรวมเอาความรู้ของทีมเข้ากับเทคโนโลยีล่าสุด ทีมงานฟิวชันจะสามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์และโซลูชันได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

โดยพื้นฐานแล้ว นี่เป็นวิธีการทำงานแบบใหม่สำหรับองค์กรของคุณ ในการดูแลโครงการตั้งแต่ต้นจนจบ ทีมงานฟิวชันจะใช้กลยุทธ์ที่คล่องตัวในการช่วยสร้างโซลูชันแต่ละโซลูชันและผสานรวมเข้ากับกลยุทธ์ด้านดิจิทัลโดยรวม กลยุทธ์ที่คล่องตัวนี้จะช่วยให้คุณทดสอบและแก้ไขโซลูชันของคุณอย่างสม่ำเสมอตามความต้องการของผู้ใช้ ด้วยวิธีนี้ ทีมจะสามารถควบคุมแผน ปรับกรอบการตัดสินใจใหม่ และจัดการกับปัญหาวิกฤติทางธุรกิจเกี่ยวกับความล้มเหลวขององค์กรและการเงินโดยไม่ลังเล ในกรณีนี้ คุณจะให้ทีมมีอิสระในการเลือกว่าจะจัดการกับปัญหาเหล่านั้นอย่างไร

เมื่อมีทีมงานฟิวชัน คุณจะสามารถมุ่งความสนใจไปที่ผลลัพธ์สุดท้ายมากกว่าเวลา ความพยายาม และเงินเพื่อให้ได้ผลลัพธ์เหล่านั้น ตาม Fusion Teams 101 แม้ว่าทีมงานฟิวชันมักไม่มีโครงสร้างการรายงานที่กำหนดชัดเจน แต่หัวหน้าทีมมักจะรายงานไปยังแผนกไอทีหรือแผนกอื่นๆ นอกเหนือจากไอที ด้วยการทำให้เส้นแบ่งระหว่างไอทีและแผนกอื่นๆ ของธุรกิจไม่ชัดเจน ทีมงานฟิวชันกลายเป็นที่นิยมมากกว่ารูปแบบการทำงานแบบเดิมที่ยึดไอทีเป็นศูนย์กลาง

แนวทางการพัฒนาแบบฟิวชัน

เมื่อการเปลี่ยนแปลงไปสู่ดิจิทัลเติบโตขึ้น ความต้องการแอปพลิเคชันที่องค์กรต้องสร้างขึ้นก็เพิ่มมากขึ้นด้วย เมื่อเทียบกับนักพัฒนาที่มีอยู่ซึ่งสามารถพัฒนาแอปพลิเคชันได้อย่างรวดเร็วจริงๆ เพื่อให้บรรลุผลสำเร็จ คุณจะต้องมีนักพัฒนาที่สามารถสร้างผลิตภัณฑ์หรือโซลูชันใหม่ๆ ได้ แต่คุณไม่ต้องการให้พวกเขาใช้เวลาทั้งหมดไปกับการทำงานในโครงการของคุณในลักษณะที่ไม่มีโค้ด ทำให้นักพัฒนาที่ใช้โค้ดต่ำเข้ามามีบทบาท

โดยการนำผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ในการเขียนโค้ดมารวมกัน ทีมพัฒนาฟิวชันจะได้รับประโยชน์จากผู้ที่ใกล้ชิดกับปัญหามากที่สุดและมีความรู้เกี่ยวกับธุรกิจมากที่สุด ด้วยวิธีนี้ ทีมงานจึงสามารถรับมือกับสถานการณ์ทางธุรกิจที่ท้าทายที่สุดได้ โดยใช้ชุดทักษะที่หลากหลายของผู้จัดการ หัวหน้าแผนก และผู้เชี่ยวชาญด้านไอที เพื่อพัฒนาโซลูชันให้รวดเร็วยิ่งขึ้น การจับคู่ผู้ที่มีประสบการณ์ในการเขียนโค้ดน้อยแต่มีความรู้ด้านเทคนิคและองค์กรจำนวนมากเข้ากับนักพัฒนาที่มีประสบการณ์ จะช่วยให้ทีมงานฟิวชันของคุณทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

นักพัฒนาทั้งสองประเภทจะนำเอาชุดทักษะของตนเองเข้ามาสู่ทีม นั่นคือ นักพัฒนาที่ใช้โค้ดน้อยวางแผนเพื่อช่วยจัดการกับความท้าทายเบื้องต้นเหล่านั้น และนักพัฒนาที่มีประสบการณ์จะเข้ามาช่วยเหลือโดยใช้ความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคขั้นสูงในการปรับปรุง ขยาย และดำเนินการกับผลิตภัณฑ์หรือโซลูชันขั้นสุดท้าย สุดท้ายนี้ พวกเขาจะนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือโซลูชันที่เสร็จเรียบร้อยดังกล่าวแก่กลุ่มผู้ใช้กลุ่มหลัก ผู้ใช้เหล่านั้นจะให้คำติชมเกี่ยวกับฟังก์ชันการทำงานและการเปลี่ยนแปลงที่จำเป็นเพื่อประสบการณ์ที่ราบรื่นยิ่งขึ้น และทีมงานฟิวชันจะกลับมาปรับปรุงแก้ไขตามคำติชม

นักพัฒนาที่ใช้โค้ดต่ำและนักพัฒนาที่มีประสบการณ์มารวมตัวกันเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ชัดเจนและเรียบง่ายที่สามารถรองรับความต้องการทางธุรกิจ จัดการกับช่องโหว่ของแอป และเชื่อมต่อกับนักพัฒนาที่มีประสบการณ์ ส่งผลให้ทีมงานฟิวชันมีความคล่องตัว เมื่อการพัฒนาแบบฟิวชันถูกนำมาใช้ตั้งแต่ระดับบนลงล่าง ทีมงานต่างๆ มีแนวโน้มที่จะใช้เทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และแชทบอท

ประโยชน์ของการพัฒนาทีมงานฟิวชัน

ประโยชน์บางประการของการนำทีมงานฟิวชันมาใช้ในองค์กรของคุณ ได้แก่:

  • การกระจายการแบ่งปันความรู้ที่กว้างขึ้น ด้วยการนำเอาพนักงานที่มักจะแยกกันทำงานและไม่ค่อยเชื่อมโยงกันเข้ามามีส่วนร่วมด้วย ทีมงานฟิวชันจะสามารถกระจายความรู้ทั่วทั้งบริษัทได้ดียิ่งขึ้น เมื่อทีมถูกแยกออกจากกัน พวกเขาขาดการเชื่อมต่อและขาดช่วงเวลาสำคัญๆ ที่การถ่ายทอดความรู้สามารถจะช่วยให้ทีมทำงานร่วมกันได้ การไหลเวียนของความรู้สูงสุดนี้จะช่วยให้สมาชิกในทีมเรียนรู้จากกันและกันอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งมักจะเป็นข้อมูลที่อยู่นอกกิจกรรมประจำวันของพวกเขา
  • การเปลี่ยนแปลงไปสู่ดิจิทัลที่รวดเร็ว องค์กรต่างๆ จำเป็นต้องก้าวให้ทันเทคโนโลยี หากมีทีมงานฟิวชัน กลยุทธ์ที่คล่องตัว และการพัฒนาที่รวดเร็ว พวกเขาจะสามารถปรับใช้โครงการและโซลูชันได้ในอัตราที่สูงกว่ามาก อาจจะเร็วกว่าถึงสองเท่าครึ่งด้วยซ้ำ
  • ความเป็นอิสระของทีมที่ยิ่งใหญ่กว่า ทีมงานฟิวชันจะส่งเสริมการทำงานเป็นทีมให้มีประสิทธิภาพ พวกเขาสามารถตอบสนองและรับมือต่อภัยคุกคามและโอกาสต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งสร้างกลยุทธ์ใหม่ๆ สำหรับสิ่งที่อาจใช้ได้ผลดีกว่า เนื่องจากทีมงานฟิวชันมีอิสระในการตัดสินใจมากขึ้นโดยปราศจากความท้าทายของระบบที่มีความยุ่งยากมากเกินไป (เช่น มีผู้เกี่ยวข้องจำนวนมาก ต้องเสียเวลานาน ฯลฯ) พวกเขารู้สึกว่ามีข้อผูกมัดมากขึ้นในต่อผลลัพธ์ที่ประสบความสำเร็จและความรับผิดชอบส่วนบุคคลต่อความสำเร็จ ดังนั้นจึงเป็นการเพิ่มกำลังใจ
  • ประสบการณ์ที่สอดคล้องกันตลอดช่องทางทั้งหมด การสร้างประสบการณ์ผู้ใช้ช่องทาง omni ที่สามารถแข่งขันในตลาดได้นั้นเป็นสิ่งสำคัญในโลกดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาในปัจจุบัน ทีมงานฟิวชันทดสอบและใช้ผลลัพธ์เหล่านั้นอย่างต่อเนื่องเพื่อวัดว่าผู้ใช้ต้องการอะไร เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะได้ทุกสิ่งที่ต้องการ ไม่ว่าพวกเขาจะไปที่ช่องทางใด
  • คุณต้องมุ่งเน้นที่ความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก มีรางวัลที่ยิ่งใหญ่สำหรับทีมงานของคุณ และ ลูกค้าปลายทางของคุณ คุณสามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์หรือโซลูชันที่ประสบความสำเร็จให้กับลูกค้าได้ในเวลาอันสั้นด้วยฝีมือของทีมงานฟิวชัน ทีมงานฟิวชันสามารถแก้ไขปัญหาของลูกค้าด้วยคำติชมและข้อมูลแบบเรียลไทม์ รวบรวมชุดทักษะจากแผนกภายในหลายๆ แผนกเพื่อจัดการกับความต้องการและความจำเป็นเหล่านั้น และแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว ข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าและการนำผลิตภัณฑ์ไปใช้จะเป็นตัวกำหนดความสำเร็จขององค์กรของคุณ และทีมงานฟิวชันจะมุ่งมั่นทำงานเพื่อแก้ปัญหาจากภายในสู่ภายนอก

การสร้างทีมงานฟิวชัน

ในการสร้างทีมงานฟิวชันนั้น คุณต้องมีบุคลากรที่เหมาะสมโดยมุ่งเน้นสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการและวิธีที่ธุรกิจของคุณสามารถทำได้ ทีมของคุณจะประกอบด้วยบุคลากรของบริษัทหลายๆ คนที่มีความรู้ในหลายๆ ด้าน ซึ่งมีทักษะในการระบุความต้องการของลูกค้าและสามารถสร้างโซลูชันที่ตอบสนองความต้องการเหล่านั้นได้ เนื่องจากแผนกหนึ่งๆ อาจมีคนหลายร้อยคน วิธีที่ดีที่สุดคือค้นหาคนที่คุณต้องการให้เจอเพื่อสร้างทีมที่สามารถช่วยเพื่อนร่วมงานและบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจของคุณได้

หากไม่มีกรอบการทำงาน คุณจะไม่สามารถสร้างทีมที่สามารถจัดการกับปัญหาของลูกค้าได้ ต่อไปนี้คือสี่ขั้นตอนที่จะช่วยสร้างทีมงานฟิวชัน:

  1. ค้นหากรณีการใช้ที่เหมาะสม ก่อนสร้างทีมงานฟิวชัน คุณต้องเข้าใจปัญหาที่คุณกำลังแก้ไขก่อน เมื่อตัดสินใจว่าจะสร้างแอป เว็บไซต์ หรือโซลูชันดิจิทัลอย่างไรแล้ว คุณต้อง:
  • เรียบง่ายเข้าไว้—ค้นหากรณีการใช้งานที่ใช้ความพยายามเพียงเล็กน้อยแต่สามารถสร้างผลกระทบได้มาก
  • ใกล้ชิดกันเข้าไว้—อย่ามีผู้เกี่ยวข้องมากเกินไป และพยายามหลีกเลี่ยงอุปสรรคด้านความปลอดภัยและการกำกับดูแล
  • ตรงประเด็นเสมอ—ต้องแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดและแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว
  1. จัดตั้งทีมงานของคุณ เริ่มต้นรวบรวมสมาชิกในทีมที่มีความกระตือรือร้นในการแก้ปัญหาและพร้อมทำงานที่อาจต้องเดินเล็กน้อย เพราะพวกเขาจะต้องรวบรวมความรู้จากหลายๆ สายธุรกิจ รวมถึงข้อมูลและคำตอบที่พวกเขาจะต้องติดตาม บทบาทหน้าที่บางอย่างที่คุณอาจต้องการ ได้แก่:
  • นักพัฒนาที่เข้าใจความต้องการและมีความสามารถในการสร้างผลิตภัณฑ์หรือแอปพลิเคชันเพื่อแก้ไข
  • ผู้นำธุรกิจและเจ้าของธุรกิจที่นำความรู้ด้านผลิตภัณฑ์พร้อมข้อมูลเชิงลึกเข้ามาในกระบวนการทางธุรกิจและประสบการณ์ของลูกค้า ซึ่งรวมถึงจุดบอดต่างๆ ด้วย
  • ผู้ดูแลระบบไอทีเป็นผู้นำในเรื่องนโยบายการกำกับดูแล การตรงตามมาตรฐาน และการบำรุงรักษาของผลิตภัณฑ์คุณ
  • สถาปนิกที่เข้าใจภาพรวมที่กว้างขึ้น ให้คำแนะนำทางเทคนิคได้ และมีความเป็นผู้นำ
  • เจ้าของผลิตภัณฑ์ดิจิทัลที่จะต่อยอดจากฟังก์ชันการทำงานของตน โดยรวบรวมเกณฑ์ที่ลูกค้ายอมรับได้
  • หัวหน้าทีมและสกรัมมาสเตอร์ที่จะนำกลยุทธ์ที่คล่องตัวมาใช้เพื่อสร้างและปรับใช้ผลิตภัณฑ์ได้เร็วขึ้น
  • ผู้ทดสอบที่คอยตรวจสอบคุณภาพและความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์คุณ
  • ผู้ฝึกอบรมที่จะคอยแนะนำสมาชิกในทีมที่ยังไม่มีประสบการณ์ ช่วยเขียนโค้ดและสร้างแอปพลิเคชัน
  • ผู้ออกแบบประสบการณ์ผู้ใช้ เพื่อประสบการณ์ผู้ใช้และการออกแบบที่ราบรื่น
  1. วางแผนงานของคุณ ระบุเวลาที่ต้องใช้ไปกับการสร้าง การปรับใช้ และเกิดผลลัพธ์ ทีมงานของคุณจะมีเวลาในการแก้ไขปัญหาและกําหนดว่าโซลูชันใดที่สามารถใช้งานได้ดีที่สุด แทนที่จะต้องตั้งหน้าตั้งตาแก้ปัญหาให้ทันกำหนดเวลาที่ไม่สมเหตุสมผล
  1. ยอมรับข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น นอกเหนือจากการที่ต้องฝึกอบรม พัฒนาแอปพลิเคชัน และแก้ไขปัญหาแล้ว ทีมงานฟิวชันยังต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับอุปสรรคต่างๆ ด้วย ทีมของคุณและองค์กรต้องพร้อมสำหรับความล้มเหลวบางอย่าง การทำงานในสภาพแวดล้อมที่คล่องตัวจะช่วยให้ทีมของคุณทำการทดสอบได้อย่างต่อเนื่องเพื่อดูว่าโซลูชันใดให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และต้องพร้อมที่จะเปลี่ยนเมื่อจำเป็น

เมื่อทีมงานฟิวชันได้รับความรู้ผ่านขั้นตอนของวงจรการพัฒนาแล้ว พวกเขาต้องได้รับการฝึกฝนและคำแนะนำเพื่อระบุกรณีการใช้งานทางธุรกิจที่เป็นไปได้เพื่อการตัดสินใจที่ถูกต้อง นักพัฒนาจะต้องการเครื่องมือที่พร้อมใช้งาน พื้นที่สำหรับความล้มเหลว การประเมินใหม่ และการลองอีกครั้ง หากธุรกิจของคุณสามารถลงทุนในการเรียนรู้ การพัฒนา และการฝึกอบรมที่จำเป็นของเพื่อนร่วมทีม พวกเขาจะสามารถปรับใช้วิธีการทำงานนี้ มีพลังในการสร้างนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์โดยไม่ต้องกลัวอะไร

กรณีการใช้ทีมงานฟิวชัน

เมื่อนำทีมงานฟิวชันเอามาปรับใช้ในธุรกิจของคุณแล้ว พวกเขาจะมีพลังในการมุ่งเน้นที่การจัดการความเสี่ยงด้านดิจิทัลในแง่ของมนุษย์มากขึ้น เช่น ด้านพฤติกรรม ด้านวัฒนธรรม และด้านองค์กร

ตัวอย่างกรณีการใช้ของทีมงานฟิวชัน ได้แก่:

  • ข้อมูลและการวิเคราะห์ ให้ข้อมูลเชิงลึกแก่ทีมงานอื่นๆ ทั้งหมดภายในองค์กร เพื่อช่วยในการตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลเป็นหลัก เช่น การพยากรณ์ตลาดแรงงาน
  • ช่องทางดิจิทัล มุ่งเน้นที่ประสบการณ์ของผู้ใช้เป็นหลักและค้นหาขอบเขตที่จะแปลงเป็นดิจิทัล รวมไปถึงผสานรวมฝ่ายการตลาด ฝ่ายขาย ฝ่ายบริการ และช่องทางออนไลน์เข้าด้วยกัน เพื่อประสบการณ์ที่กำหนดเองได้และการตลาดที่ตรงเป้าหมาย
  • การดำเนินการแบบดิจิทัล ค้นหาวิธีเพิ่มเติมในการแปลงการดำเนินงานให้เป็นระบบดิจิทัล เช่น การออกแบบห่วงโซ่อุปทานใหม่
  • ผลิตภัณฑ์ดิจิทัล ส่งมอบและบำรุงรักษาผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่ตอบโจทย์ลูกค้า รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ดิจิทัล

ทีมงานของคุณต้องการโซลูชันที่ช่วยให้ทุกคนภายในบริษัทสามารถมอบสิ่งที่ผู้ใช้ของคุณต้องการได้ รวมไปถึงเครื่องมือที่สามารถใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ได้เพื่อประโยชน์ของพวกเขา

การใช้เทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ในการพัฒนาแบบฟิวชัน

เมื่อมีผู้คนทำงานจากระยะไกลมากขึ้นทั่วโลก การใช้เทคโนโลยีในที่ทำงานก็เพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน องค์กรต่างๆ เริ่มมองหาเทคโนโลยีใหม่ๆ และตระหนักว่าทีมงานฟิวชันจะได้รับประโยชน์อย่างมากจากเทคโนโลยีเหล่านี้

ตัวอย่างหนึ่งคือ ประสบการณ์บอทที่มีประสิทธิภาพซึ่งขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อช่วยจัดการความต้องการของลูกค้า ผลิตภัณฑ์ต่างๆ สามารถตอบกลับผู้ใช้โดยใช้ภาษาที่พวกเขาเข้าใจได้ผ่าน AI สนทนา

บอท AI สนทนาเหล่านี้ที่สร้างจากฝีมือของทีมงานฟิวชันจะช่วยให้ทีมงานต่างๆ สามารถสร้างแอปพลิเคชันได้โดยการสร้างแชทบอทที่ใช้โค้ดต่ำและรวม AI ขั้นสูงเข้าด้วยกันเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้ให้สมบูรณ์ นักพัฒนาสามารถมุ่งเน้นไปที่การเขียนโค้ดขั้นสูง ในขณะที่ธุรกิจก็สามารถสร้างมูลค่าให้กับตรรกะการสนทนาได้ ทั้งหมดนี้ทำงานร่วมกันเพื่อกระบวนการที่ราบรื่นซึ่งตรงกับความต้องการของธุรกิจ

การเริ่มต้นใช้งานโซลูชันการพัฒนาแบบฟิวชัน

เมื่อธุรกิจของคุณพร้อมที่จะสร้างทีมงานฟิวชัน ก่อนอื่นเลย คุณต้องนึกถึงโซลูชันการพัฒนาแบบฟิวชันที่คุณจะใช้ คุณต้องมีเครื่องมือที่จะเข้ากับโครงการและเป้าหมายทางธุรกิจของคุณได้อย่างง่ายดาย ซึ่งจะส่งผลให้การนำไปใช้งานเป็นไปอย่างราบรื่นและไม่ติดขัด

ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการพัฒนาบอทด้วย AI การสนทนา คุณจะต้องใช้โซลูชันที่สามารถสร้างและปรับขนาดได้ง่ายๆ เช่น Microsoft Power Virtual Agents ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการทำงานของทีมงานฟิวชันทุกระดับทักษะ และด้วยการผสานรวมบอทต่างๆ ของกระบวนการทางธุรกิจที่มีอยู่เข้ากับคุณลักษณะต่างๆ จาก Microsoft Power Platform ทั้งหมด ทีมงานฟิวชันของคุณจะมีความยืดหยุ่นและอิสระในการทำงานตามที่พวกเขาต้องการ

คำถามที่พบบ่อย

ทีมงานฟิวชันคืออะไร

ทีมงานฟิวชันเป็นกลุ่มที่มีความเชี่ยวชาญหลากหลายผสมผสานเทคโนโลยีหรือการวิเคราะห์เข้ากับความรู้ทางธุรกิจเพื่อความสำเร็จของผลิตภัณฑ์

การพัฒนาแบบฟิวชันคืออะไร

ด้วยการผสมผสานความเชี่ยวชาญของนักพัฒนาที่ใช้โค้ดน้อยและนักพัฒนาที่มีประสบการณ์เข้ากับคำติชมของผู้ใช้ ธุรกิจต่างๆ จะสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่ลงตัวและประสบความสำเร็จได้

เพราะเหตุใดคุณจึงควรสร้างทีมงานฟิวชัน

ทีมงานฟิวชันช่วยให้ธุรกิจของคุณสร้างผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่ดีขึ้นได้เร็วยิ่งขึ้นด้วยแอปพลิเคชันแบบโค้ดต่ำและไม่มีโค้ด